เมื่อบ้านเกิดไม่ใช่แค่ “ที่มา” แต่คือ “พื้นที่แห่งอนาคต”: ถอดบทเรียนจากเวที ISAN HOMECOMER TALK

เผยแพร่เมื่อ 6 วันที่แล้ว
เมื่อบ้านเกิดไม่ใช่แค่ “ที่มา” แต่คือ “พื้นที่แห่งอนาคต”: ถอดบทเรียนจากเวที ISAN HOMECOMER TALK
ในยุคที่การเติบโตกระจุกตัวอยู่ในไม่กี่เมืองใหญ่ คำว่า “กลับบ้าน” สำหรับใครหลายคนอาจเป็นเพียงคำปลอบใจ หรือภาพฝันในวัยชรา แต่สำหรับผู้ร่วมเสวนา 5 คนในเวทีนี้ การกลับบ้านคือการ “กลับไปสร้าง” ไม่ใช่แค่กลับไปพัก และนั่นทำให้คำว่า “บ้าน” กลายเป็นพื้นที่แห่งความหวัง อนาคต และการลงมือทำ
บรรยากาศการสนทนา: “กลับบ้าน” ในฐานะยุทธศาสตร์ชีวิต
ช่วงต้นของเสวนา เคน – นครินทร์ ตั้งคำถามเปิดเวทีว่า
“ในห้องนี้ ใครทำงานหรือเรียนที่บ้านเกิดบ้าง?”
คำตอบสะท้อนภาพสังคมได้อย่างน่าทึ่ง: มีคนน้อยกว่าครึ่งที่ได้อยู่บ้านเกิดจริง
เขาตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศไทยมีสัดส่วน GDP ถึง 70% มาจากเพียง 10 จังหวัด
“เราเป็นประเทศที่โตแบบ ‘กระจุก’ มากกว่าการโตแบบกระจาย”
เวทีนี้จึงไม่ใช่แค่การพูดถึง “การกลับบ้าน” แบบโรแมนติก แต่คือการตั้งคำถามว่า
จะทำให้ “บ้านเกิด” กลายเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและความฝันได้อย่างไร?
ประเด็นแลกเปลี่ยนหลัก: กลับบ้าน = กลับมาสร้าง
“บ้านไม่ใช่แค่ที่พักอาศัย แต่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์”
ณัฐกร สมบัติธรรม – Co-founder UrbanKraft, Founder Khon Kaen Talk
เขาเริ่มกลับมาทำเพจ “Khon Kaen Talk” เพื่อพูดเรื่องเมือง ตั้งแต่เรียนยังไม่จบ ด้วยแรงบันดาลใจจากข่าวการผลักดันรถไฟฟ้าสายแรกของขอนแก่น
“ตอนเห็นข่าวว่าจะมีรถไฟฟ้าที่ขอนแก่น เราตั้งใจเลยว่าเรียนจบจะกลับบ้าน เพราะเมืองเรากำลังจะโต”
จากการสื่อสารออนไลน์ เขาค่อย ๆ เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ นักพัฒนาเมือง และเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ให้เห็นภาพเมืองในแบบที่ร่วมกันสร้างได้
“ถ้าเราไม่ช่วยกันเล่าเรื่องบ้านของเรา ใครจะเล่าให้เราฟัง?”
“โอกาสไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าเรามองเห็นอะไรที่บ้าน”
ศุภณัฐ นามวงศ์ – CEO ไทบ้าน สตูดิโอ ป่าล้อมเมือง
ย้อนกลับไปสิบปีก่อน เขาเลือกกลับมาบ้านที่ศรีสะเกษ โดยไม่ได้มีเงินทุนหรือเครือข่ายในวงการภาพยนตร์ สิ่งเดียวที่เขามีคือความเข้าใจ “จังหวะชีวิตของคนอีสาน” ซึ่งไม่อาจจำลองในห้องเขียนบทที่กรุงเทพฯได้ เขาเริ่มจากการถ่ายวิดีโอเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน ก่อนจะขยายเป็นจักรวาลหนังไทบ้าน ที่พูดภาษาอีสานอย่างไม่มีการแปล และพาผู้ชมทั่วประเทศเข้าใจชีวิตชนบทแบบไม่ต้องแต่งเติม
“ถ้าอยากทำหนังเกี่ยวกับบ้าน เราต้องอยู่บ้านจริง ๆ”
“หมอลำไม่ใช่แค่การแสดง มันคือชีวิตของชุมชน”
ปาลิตา เชื้อสาวะถี – ศิลปิน อีสานนครศิลป์
หลังเรียนจบด้าน voice จาก มศว เธอกลับบ้านที่บ้านสาวะถี จ.ขอนแก่น เพื่อสานต่อวงหมอลำของครอบครัว ซึ่งกำลังขาดคนรุ่นใหม่มาสืบทอด เธอไม่ได้เพียงนำทักษะการร้องมาถ่ายทอด แต่พยายามพัฒนาโครงสร้างของการแสดงให้เชื่อมโยงกับชุมชนในชีวิตจริง เช่น การแสดงในตลาดสด โรงเรียน หรือเวิร์กช็อปกับเด็ก ๆ
“เราต้องทำให้หมอลำกลับมาอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่อยู่แต่ในงานพิธีหรือบนเวทีใหญ่ ๆ เท่านั้น”
“หมอลำไม่ควรอยู่แค่บนเวทีลิเก ๆ เราอยากให้มันมีชีวิตอยู่กับคนจริง ๆ ทุกวัน”
“อีสานไม่ใช่พื้นที่ชายขอบ แต่คือขอบฟ้าของโอกาสใหม่”
ยิปซี จันทร์เพ็งเพ็ญ – นักสร้างสรรค์เพื่อสาธารณะ
เธอกลับบ้านที่อีสานตั้งแต่ช่วงแรกของยุค Creative Economy โดยไม่มีต้นแบบหรือคู่มือใด ๆ ให้เดินตาม จากการทำงานกับชาวบ้านในชุมชนเล็ก ๆ เธอเรียนรู้ว่าวัฒนธรรม การกิน การใช้ชีวิต และภูมิปัญญาอีสาน คือฐานทุนอันทรงพลัง ที่สามารถต่อยอดเป็นแบรนด์ งานศิลปะ หรือกิจกรรมทางสังคม
“หลายอย่างที่กรุงเทพฯเรียกว่าเทรนด์ มันเกิดจากชีวิตประจำวันของคนอีสานทั้งนั้น”
“ถ้าเราไม่กลับไปทำ ใครจะเป็นคนทำ?”
“ถ้าโรงเรียนอยู่ไม่ได้ในหมู่บ้าน หมู่บ้านต้องเป็นโรงเรียน”
ดร. สัญญา มัครินทร์ – อธิการบดี มหาลัยไทบ้าน
เขาไม่เชื่อว่าความรู้ต้องอยู่แต่ในห้องเรียน และไม่เห็นด้วยกับระบบการศึกษาที่เน้นย้ายคนเก่งออกจากบ้านเกิด จึงสร้าง “มหาลัยไทบ้าน” ขึ้นในหมู่บ้านของตัวเอง โดยใช้ชุมชนเป็นห้องเรียน ผู้ใหญ่เป็นอาจารย์ และเด็ก ๆ เป็นผู้สำรวจชีวิต เขาชี้ให้เห็นว่าการกลับบ้านของคนรุ่นใหม่จะยั่งยืนได้ ก็ต่อเมื่อมีระบบการเรียนรู้ที่เกิดจากพื้นที่จริง ไม่ใช่แค่การเอาความรู้จากข้างนอกมาวางทับ
“อย่าเอาความรู้ที่ไม่รู้จักคนในชุมชน มาวางใส่คนในชุมชน”
Key Takeaway
“เมื่อการกลับอีสานไม่ใช่แค่เรื่องของบ้าน แต่คือเรื่องของอนาคต”
- ศุภณัฐ นามวงศ์
- การกลับบ้านคือการกลับมาสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่เกิดจากภาษา วัฒนธรรม และความจริงของท้องถิ่น
- ณัฐกร สมบัติธรรม
- การกลับบ้านคือการกลับมาเชื่อมโยงความรู้ เทคโนโลยี และคนเมือง เพื่อออกแบบอนาคตของพื้นที่ด้วยมือคนใน
- ปาลิตา เชื้อสาวะถี
- การกลับบ้านคือการนำความรู้สมัยใหม่มาสานต่อทุนวัฒนธรรมเดิม ให้ยังมีลมหายใจในโลกอนาคต
- ยิปซี จันทร์เพ็งเพ็ญ
- การกลับบ้านคือการเปลี่ยน “พื้นที่ร้าง” ให้กลายเป็น “พื้นที่สร้าง” ของแนวคิดสร้างสรรค์ สาธารณะ และชุมชน
ดร. สัญญา มัครินทร์
การกลับบ้านคือการออกแบบระบบเรียนรู้ใหม่ที่ไม่รอการปฏิรูปจากส่วนกลาง แต่เริ่มจากหมู่บ้านเอง